เนื่องในเดือนมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เทศบาลตำบลท่าไม้ ขอเผยแพร่พระราชกรณียกิจที่สำคัญในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” พระปฐมบรมราชโองการพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑o
วันที่ ๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
พระราชกรณียกิจที่สำคัญใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑o พระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพและความสามารถทางด้านการบิน ด้านการทหาร ด้านการต่างประเทศ ด้านการศึกษา ด้านการเกษตร ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านสังคม ด้านศาสนา และด้านกีฬา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอุทิศพระวรกายในการประกอบพระราชกรณียกิจต่าง ๆ มากมาย และเนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ การไฟฟ้านครหลวงน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี จึงได้รวบรวมพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้
ด้านการบินและด้านการทหาร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยในวิทยาการด้านการทหารมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ นอกจากจะทรงรับการศึกษาด้านการทหารจากประเทศออสเตรเลีย ยังทรงพระวิริยะอุตสาหะเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ตลอดเวลา โดยเฉพาะในด้านวิทยาการการบิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับราชการทหารมาโดยตลอดตั้งแต่วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘ และทรงดำรงพระยศทางทหารของ ๓ เหล่าทัพ คือ พล.อ. พล.ร.อ. และ พล.อ.อ. โดยทรงเข้าร่วมปฏิบัติการรบเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งการคุ้มกันพื้นที่ในบริเวณรอบค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชา ที่เขาล้าน จังหวัดตราด
ด้านการต่างประเทศ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเยือนมิตรประเทศทั่วทุกทวีป เช่น อิตาลี จีน ญี่ปุ่น อิหร่าน เนปาล ศรีลังกา เปรู ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ฯลฯ นอกจากจะมุ่งเจริญสัมพันธไมตรีแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงสนพระราชหฤทัยในการทอดพระเนตรและศึกษากิจการต่าง ๆ ที่จะทรงนำประโยชน์มาใช้ในการพัฒนาประเทศไทย เช่น กิจการทหาร ศิลปวัฒนธรรม อุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชน
ด้านการศึกษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ร่วมสนับสนุนก่อตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาในถิ่นทุรกันดาร ๖ แห่ง และทรงรับโรงเรียนมัธยมศึกษา ๑๕ แห่ง ไว้ในพระราชูปถัมภ์ นอกจากนี้ยังมีพระราชดำริให้จัดตั้งมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อสนับสนุนผู้ศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จนถึงปริญญาตรีหรือเทียบเท่า เป็นการสร้างบุคลากรคุณภาพในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ เช่น ครู แพทย์ ตำรวจ ทหาร ที่จะช่วยกันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ
ด้านการเกษตร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานที่ดินส่วนพระองค์ จัดตั้งคลินิกเกษตร เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีการเกษตรจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ คลินิกดังกล่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า "เกษตรวิชญา" แปลว่าปราชญ์แห่งการเกษตร ทำหน้าที่เผยแพร่ผลงานวิจัยและเทคโนโลยีการเกษตรจากศูนย์ฯ ในรูปแบบของศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีชุมชน
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จตามพระราชบิดาและพระราชมารดาไปทรงเยี่ยมราษฎรในชนบทเสมอ จึงมีพระราชดำริให้ราษฎรได้รับการรักษาพยาบาลทั่วถึงและมีมาตรฐาน เป็นที่มาของการจัดตั้งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชในท้องถิ่นห่างไกลและกันดารขึ้น
ปี พ.ศ. ๒๕๖๓
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน “ห้องตรวจหาเชื้อ (Modular Swab Unit)” ซึ่งเป็นหนึ่งใน “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” เพื่อรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 รวมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนให้มีอุปกรณ์การแพทย์เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย
ด้านสังคม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาห่วงใยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนที่ด้อยโอกาส นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังพระราชทานโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อส่งเสริมให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนมีความเสียสละ สมัครสมานสามัคคี สร้างสรรค์ความดีเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ด้านศาสนา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเสด็จไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจทางศาสนาอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามตามฤดูกาล รวมถึงเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานถ้วยรางวัล การทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ
ด้านกีฬา
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ มีการจัดกิจกรรมปั่นจักรยานทั่วประเทศ ในชื่อกิจกรรม "ปั่นเพื่อแม่" (Bike for Mom) เฉลิมพระเกียรติพระราชมารดาของพระองค์ในวันที่ ๑๖ สิงหาคม และกิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ" (Bike for Dad) เฉลิมพระเกียรติพระราชบิดาของพระองค์ในวันที่ ๑๑ ธันวาคม โดยระบุว่าเป็นไปตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องการส่งเสริมการออกกำลังกาย ซึ่งทั้งสองกิจกรรมพระองค์ทรงร่วมปั่นจักรยานในกรุงเทพฯ ด้วย
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ